Modbar Espresso EP กับการทดลอง Pressure Profile Ep.2

     แน่นอนว่า Modbar Espresso EP จุดเด่นเลยคือการตั้งค่าในเรื่องของแรงดันในการสกัด หรือPressure Profile เพราะฉะนั้นผู้ชงกาแฟหรือบาริสต้าสามารถตั้งค่าโปรไฟล์ได้หลากหลายในเครื่องเดียว และยังบันทึกได้ถึง 15 โปรไฟล์เลยทีเดียว

     ปกติแล้วเครื่องชงกาแฟทั่วไปจะสามารถสกัดแรงดันอยู่ที่ 8-10 บาร์ โดยเป็นการสกัดแรงดันเดียวจนจบ ในวันนี้เราจะหยิบยกตัวอย่างการสกัดและตั้งค่าโปรไฟล์ด้วยแรงดันต่ำ อยู่ที่ประมาณ 5 บาร์ เพราะในความเป็นจริงแล้ว กาแฟแต่ละชนิดมีความต่างกัน ในแต่ละช่วงของการสกัดต้องการการสกัดที่แตกต่างเพื่อดึงรสชาติของกาแฟตัวนั้นๆ ออกมา

การทดสอบตัวอย่างในครั้งนี้ เราจะจำลองโปรโฟล์ โดยการควบคุมความละเอียดหยาบ, ปริมาณผงกาแฟ, ปริมาณของน้ำ และช่วงเวลาในการสกัด (T1-T3) ที่เท่ากัน แตกต่างกันที่แรงดันสูงสุด (Max P) โดยเมล็ดกาแฟที่ใช้ในการทดลองครั้งนี้เป็นเมล็ดกาแฟ Seasonal Blend อย่างกาแฟ Harmony Blend คั่วกลาง (Medium Roast)

  • ปริมาณผงกาแฟ 15 กรัม

  • ปริมาณน้ำ 35 กรัม

โปรไฟล์ที่ 1 การทดสอบการสกัดเหมือนเครื่องทั่วไป โดยใช้แรงดันสูงสุด (MaxP) ที่ 9 บาร์

ตัวอย่างการสกัดเครื่องชงกาแฟของแบรนด์ La Marzocco ในรุ่น Linea

  • ช่วงเวลาที่ 1 (T1) เราจะใช้เวลา 3 วินาที ในการไต่ระดับแรงดันจากแรงดันสกัดเริ่มต้นที่ 0 บาร์ ไปจนถึงแรงดันสูงสุดในการสกัดคือ 9 บาร์

  • ช่วงเวลาที่ 2 (T2) เราจะใช้เวลา 40 วินาที ในการสกัดที่แรงดัน 9 บาร์ เพื่อให้เหมือนการสกัดจากเครื่องชงกาแฟ La Marzocco รุ่น Linea ค่ะ

  • ช่วงเวลาที่ 3 (T3) เราใช้เวลา 2 วินาที ในการลดระดับแรงดันกลับมาเป็น 0 บาร์

     จากกราฟจะเห็นว่า การสกัดจะแตะที่ 9 บาร์ ในระยะเวลาที่ค่อนข้างยาว และจบด้วยการลดแรงดันลงในตอนท้ายด้วยความรวดเร็ว เป็นการจำลองลักษณะของการสกัดกาแฟจากเครื่องชงในรูปแบบปกติ อย่างเช่นเครื่องชงกาแฟ La Marzocco รุ่น Linea ค่ะ

     ซึ่งในโปรไฟล์ที่ 1 จะมีรสชาติที่สกัดออกมามากกว่า บอดี้หนัก ให้รสชาติค่อนข้างจัดจ้าน

โปรไฟล์ที่ 2 การทดสอบการสกัดโดยใช้แรงดันสูงสุด (MaxP) ที่ 5 บาร์

  • ช่วงเวลาที่ 1 (T1) เราจะใช้เวลา 3 วินาที ในการไต่ระดับแรงดันจากแรงดันสกัดเริ่มต้นที่ 0 บาร์ ไปจนถึงแรงดันสูงสุดในการสกัดคือ 5 บาร์

  • ช่วงเวลาที่ 2 (T2) เราจะใช้เวลา 40 วินาที ใ นการสกัดที่แรงดัน 5 บาร์

  • ช่วงเวลาที่ 3 (T3) เราใช้เวลา 2 วินาที ในการลดระดับแรงดันกลับมาเป็น 0 บาร์

     จากกราฟ ในการสกัดจะเป็นเหมือนกับโปรไฟล์แรกแต่ แรงดันในการสกัด จะไต่ถึงแรงดันที่ 5 บาร์ และจบด้วยแรงดันลดลงตอนท้าย

     ซึ่งในโปรไฟล์ที่ 2 จะมีรสชาติที่สกัดออกมาค่อนข้างหวาน บาลานซ์ และมีเนื้อสัมผัสบางกว่า

     จากการทดลองทั้ง 2 โปรไฟล์จะเห็นได้ว่ากาแฟบางตัวหากสกัดในแรงดันที่ต่ำกว่าก็จะสามารถดึงเอากลิ่นและรสชาติออกมาได้มากกว่า อย่างเช่นเมล็ดกาแฟ Harmony Blend ที่เราเลือกมาใช้ในวันนี้ ที่ให้รสชาติที่หวานและบาลานซ์กว่านั้นเอง แต่ทั้งนี้การดึงเอากลิ่นและรสชาติที่ดีของกาแฟออกมาก็ยังมีปัจจัยอื่นๆ ร่วมด้วย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของปริมาณกาแฟที่ใช้ ความละเอียดหยาบของผงกาแฟ ระดับการคั่ว เป็นต้น

     เครื่องชง Modbar จึงตอบโจทย์การชงกาแฟของบาริสต้าที่ต้องการดึงเอาคาแร็กเตอร์ที่ดีของกาแฟออกมาให้มากที่สุด ให้ทุกการออกแบบโปรไฟล์การสกัดกาแฟ และการทำงานของคุณไร้ขีดจำกัด และยังสามารถตั้งค่าต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย เพียงปลายนิ้วสัมผัส

     ให้คุณเข้าถึงประสบการณ์ในการใช้งานที่แตกต่าง อย่างลงตัว ด้วย Modbar Espresso EP

Modbar Espresso EP กับการทดลอง Pressure Profile Ep.1https://www.bluekoff.com/Article.aspx?m=view&cat=&id=86