กาแฟของพ่อ

“สังคม ใดก็ตาม ถ้ามีความเอื้อเฟื้อเกื้อกูลกัน ด้วยความมุ่งดีมุ่งเจริญต่อกัน

สังคมนั้นย่อมเต็มไปด้วยไมตรีจิต มิตรภาพ มีความร่มเย็นเป็นสุข น่าอยู่”

พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่ออัญเชิญลงพิมพ์ในนิตยสารที่ระลึกครบรอบ ๓๖ ปี 
ของสโมสรไลออนส์กรุงเทพฯ ๓๑ มีนาคม ๒๕๓๘

 

พระองค์...ท่านทรงมองการณ์ไกล

                                                     

     ย้อนกลับไปกว่า 30 ปีที่แล้ว พื้นที่บนดอยช้างเป็นภูเขาที่บานสะพรั่งไปด้วยดอกฝิ่น แม้ทางการจะพยายามห้ามปรามและชี้ให้เห็นถึงโทษของการปลูกสารเสพติดชนิดนี้ก็ตาม แต่ก็ไม่เกิดผลเท่าที่ควร เนื่องด้วยภูมิประเทศที่เป็นภูเขาสูง เพาะปลูกพืชชนิดอื่นได้ลำบาก ผลผลิตไม่ดี และด้วยสภาพความเป็นอยู่ของชาวบ้านที่ไม่มีความรู้ในการประกอบอาชีพอื่น ที่สามารถเลี้ยงครอบครัวได้มากกว่าไปกว่าการปลูกฝิ่นที่ได้รับการถ่ายทอดมาจากคนรุ่นก่อนๆ

                                                     

      แต่ด้วยพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ทรงมีพระราชดำริให้ชาวไทยภูเขาบนดอยช้าง ปลูกพืชชนิดอื่นทดแทนการปลูกฝิ่น มีการถ่ายทอดความรู้ด้านการเกษตรบนพื้นที่สูง พร้อมได้ทรงพระราชทาน ต้นกาแฟสายพันธุ์อาราบิก้า ให้แก่พี่น้องชาวไทยภูเขาบนพื้นที่สูงในจังหวัดทางภาคเหนือ เมื่อปี พ.ศ.2526 นับจากนั้น ดอยช้างจึงเป็นที่รู้จักในฐานะแหล่งปลูกกาแฟคุณภาพดีของประเทศไทย ทั้งยังมีชื่อเสียงติดอันดับโลกอีกด้วย

 

แรงบันดาลใจ จากในหลวง

     คุณศุภชัย ศรีวิตตาภรณ์ ประธานบริษัท บลูคอฟ จำกัด เล่าว่า “เมื่อครั้งที่ผมได้มีโอกาสขึ้นไปทำการแปรรูปเมล็ดกาแฟบนดอยช้าง ได้พบปะกับชาวบ้าน ได้พูดคุยถึงอดีต ได้เห็นรูปภาพทุ่งฝิ่นในพื้นที่ ซึ่งทุกวันนี้ได้แปรเปลี่ยนสภาพกลายมาเป็นสวนกาแฟ จากภาพนั้นทำให้ผมได้เข้าใจถึงน้ำพระทัยที่พระองค์ทรงมีต่อประชาชนของพระองค์อย่างแท้จริง ทรงพลิกฟื้นผืนดิน จากไร่ฝิ่นกลายเป็นพืชเศรษฐกิจที่ทดแทนอย่างยั่งยืนจนถึงปัจจุบัน นั่นก็คือ ”ต้นกาแฟ” ทรงมีพระราชดำริให้หน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนให้เพาะพันธุ์ พัฒนาและวิจัยกาแฟอย่างเต็มที่ เพื่อให้ชาวไทยภูเขาเผ่าต่างๆ มีรายได้และมีความเป็นอยู่ที่สุขสบาย และนี่เป็นแค่หนึ่งในความตั้งมั่นในสิ่งที่พระองค์ทรงตรากตรำทำงานหนักเพื่อประชาชนของพระองค์ ซึ่งถ้าหากไม่มีในหลวงรัชกาลที่ 9  ก็อาจจะไม่มีต้นกาแฟในประเทศไทยเหมือนอย่างเช่นทุกวันนี้”

                                                     

     ตั้งแต่ปี พ.ศ.2543 เป็นต้นมา บริษัท บลูคอฟ จำกัด ได้ดำเนินธุรกิจตามรอยเบื้องพระยุคลบาท ในด้านหลักการทรงงานต่างๆ มีการส่งเสริมเกษตรกรผู้ปลูกกาแฟ โดยถ่ายทอดองค์ความรู้ให้แก่เกษตรกร ตั้งแต่การเพาะปลูก การแปรรูปเมล็ดกาแฟ และการพัฒนาผลผลิตให้มีคุณภาพ เพื่อยกระดับความเป็นอยู่ของเกษตรกรให้สามารถพึ่งพาตนเองได้ และเกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน

     นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ ที่ทรงเมตตาแก่ชาวไทยภูเขาที่ห่างไกลความเจริญ จนเป็นที่ซาบซึ้งและปลื้มปิติยินดีอย่างที่สุดที่ทำให้คนยากไร้ได้มีชีวิตที่ดี มีผลผลิตทางการเกษตรที่มีคุณภาพออกสู่ตลาดมากมายและหาเลี้ยงชีพของตนเองได้

                     

                                                                                                  ปวงข้าพระพุทธเจ้า ขอน้อมเกล้าน้อมกระหม่อม

                                                                                                  รำลึกในพระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้

                                                                                                  ข้าพระพุทธเจ้า คณะผู้บริหาร และพนักงาน บริษัท บลูคอฟ จำกัด