Cacao’s growing areas

ต้นคาเคา หรือต้นโกโก้ที่หลายคนเคยได้ยินกันนั้นเป็นพืชชนิดหนึ่ง ซึ่งโกโก้จะเริ่มออกผลเมื่อมีอายุได้ประมาณ 3 ปี ซึ่งผลโกโก้จะสุกต้องใช้ระยะเวลาประมาณ 5-6 เดือน

นีคือเมล็ดโกโก้ที่อยู่ด้านในผลโกโก้นั้นเอง ซึ่งเป็นส่วนที่นำมาแปรรูปจนเป็นผงโกโก้ ช็อกโกแลตหรือไขมันโกโก้นั่นเอง

ส่วนมากแล้วผลโกโก้จะเป็นสีเหลืองหรือสีส้ม ลักษณะของต้นโกโก้เป็นพืชยืนต้นสูงประมาณ 4-20 เมตร เจริญเติบโตได้ดีในลักษณะภูมิอากาศประเทศร้อนชื้นเพราะต้องการปริมาณน้ำฝนอย่างสม่ำเสมอและไม่ต้องการแสงแดดมากโดยส่วนมากต้องอาศัยร่มเงาจากร่มไม้ต้นอื่นในช่วงที่ยังไม่โตเต็มที่ ดังนั้นแหล่งปลูกโกโก้ส่วนมากจะอยู่ประเทศที่ใกล้กับ เส้นศูนย์สูตร

ถ้าดูจากแหล่งปลูกต่างๆในแผนที่จะมีลักษณะคล้ายเข็มขัดจึงมีชื่อเรียกว่า Cacao Belt

โดยในแต่ละทวีปหรือในแต่ละประเทศเองก็ตามจะมีเอกลักษณ์ของรสชาติต่างกันเนื่องจาก สายพันธ์ที่ต่างรวมไปถึงสภาพภูมิอากาศ แร่ธาตุในดินที่ต่างกันก็มีผลต่อคุณภาพเมล็ด สามารถแบ่งแหล่งปลูกเป็น 3 ทวีปได้แก่

1. ทวีปแอฟริกาใต้

มีการปลูกมากที่สุดคิดเป็น 70 % ของโลกถือว่าเป็นแหล่งผลิตและส่งออกที่สำคัญของโลก ซึ่งส่วนมากจะถูกซื้อโดยประเทศในทวีปยุโรปและนำไปแปรรูปขาย ประเทศผู้ผลิตที่สำคัญเช่น ไอโวรี่โคส กาน่า

2. ทวีปอเมริกาใต้

เป็นทวีปเก่าแก่ของโกโก้ซึ่งพวกเขารู้จักการกินโกโก้ในรูปแบบเครื่องดื่มมาอย่างยาวนานแต่ในปัจจุปันขึ้นชื่อเรื่องคุณภาพของเมล็ดโกโก้ เพราะมีความรู้ในการเพราะปลูก การหมัก และการแปรรูปที่ดี มีผู้ผลิตที่สำคัญเข่น เอกวาดอร์ เวเนซูเอล่า เปรู บราซิล

3. ทวีปเอเชีย

เรียกได้ว่าเป็นทวีปน้องใหม่ในเรื่องของโกโก้ เริ่มจากชาวดัตซ์กับชาวสเปนได้นำโกโก้เข้ามาปลูกในอินโดนิเซียและฟิลิปินส์เนื่องจากมีภูมิอากาศที่เหมาะสมผลผลิตออกมาดีทำให้มีการปลูกกันอย่างแพร่หลายมากขึ้น มีผู้ผลิตที่สำคัญได้แก่ อินโดนิเซีย ที่สามารถผลิตได้เป็นดับที่ 3 ของโลก  จีน อินเดีย มาเลเซีย และแม้แต่ประเทศไทยเองก็ให้ความสำคัญในการเพราะปลูกและแปรรูปกันมากขึ้น

ส่วนสายพันธุ์ของโกโก้จะแบ่งเป็น 3 สายพันธุ์หลักๆ คือ

1.พันธุ์คริโอลโล่ (Criollo)

ที่ให้รสชาติดีที่สุดแต่ไม่เป็นที่นิยมปลูกเนื่องจากการให้ผลผลิตที่ต่ำ และไม่ทนทานต่อโรคและแมลงรบกวน ส่วนมากสายพันธุ์นี้จะปลูกในแถบอเมริกา

2.พันธุ์ฟอรัสเทอร์โร่ (Forastero)

เป็นสายพันธุ์ที่นิยมปลูกมากที่สุดคิดเป็น 80% ของต้นโกโก้ทั้งหมด เนื่องจากให้ผลผลิตที่สูง แข็งแรงทนทานต่อโรคและการรบกวนของแมลง ถูกปลูกมากในแถบแอฟริกา

3.พันธุ์ทรีนิตาริโอ (Trinitario)  

เป็นพันธุ์ที่เข้าใจว่าเกิดจากการผสมกันระหว่าง Criollo กับForastero ขอดีของสายพันธุ์นี้คือ มีกลิ่นความหอมของโกโก้ซึ่งได้รับมาจาก Criollo และยังแข็งแรงต้านโรค ให้ผลผลิตดี ถูกปลูกมากในแถบอเมริกาใต้รวมถึงในแถบเอเชีย

ปัจจุบันพันธุ์โกโก้ที่ผลิตขึ้นมาเพื่อใช้ปลูกในเชิงการค้านั้นส่วนมากแล้วจะเป็นลูกผสมแทบทั้งสิ้นนี้เนื่องจากโกโก้ลูกผสมนั้นได้รับการปรับปรุงคุณภาพในด้านต่างๆ ให้ดีขึ้นกว่าพันธุ์พ่อพันธุ์แม่ที่มีอยู่เดิม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเจริญเติบโต การให้ผลผลิต คุณภาพและขนาดเล็ก ความทนทานต่อโรคและแมลง