คู่มือการสั่งกาแฟฉบับ Specialist (Ep. 1)

“Espresso”  “Americano”  “Café Latte”  เมนูที่หลายคนคุ้นหู .. แท้จริงแล้วต่างกันอย่างไร ?

     ในยุคที่ร้านกาแฟในไทยเปิดใหม่มากมาย ทั้งในกรุงเทพและตามต่างจังหวัด ผู้อ่านหลายท่านที่ต้องการเริ่มดื่มกาแฟ อาจยังไม่ทราบว่าชื่อเมนูที่เคยได้ยินผ่านหูกันบ่อยๆ นั้น แต่ละเมนูมีความแตกต่างกันอย่างไร .. มีส่วนผสมที่เหมือนกันหรือไม่ .. และ จะสั่งอย่างไรให้ได้กาแฟที่ถูกใจเรา ??  วันนี้เรามาเรียนรู้วิธีการสั่งกาแฟฉบับมืออาชีพกัน

Espresso - Double Espresso – Doppio

     เป็นกาแฟที่ถูกสกัดจากเครื่องชงเอสเพรสโซ่ (Espresso Machine) ที่ใช้แรงดันสูงในการสกัด จึงทำให้ได้รสชาติที่เข้มข้น  การสกัดเอสเปรสโซ่จะใช้ปริมาณผงกาแฟ 8-10 กรัม สกัดน้ำกาแฟออกมา 25-30 มิลลิลิตร ซึ่งจะทำให้ผู้ดื่มได้รับรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของแปลว่า Double หรือหมายถึง 2 นั้นเอง ดังนั้น Doppio Espresso จึงมีความหมายเดียวกันกับ Double espresso ซึ่งการสกัดนั้นเราจะใช้ปริมาณผงกาแฟประมาณ 16-20 กรัม สกัดน้ำกาแฟออกมาให้ได้ 50-60กรัม ในประเทศไทยส่วนใหญ่มักจะนำเมนูนี้ไปเป็น สารตั้งต้น (ส่วนประกอบหลัก) ในการทำเมนูเครื่องดื่มเย็นต่างๆมากมาย เช่น อเมริกาโน่เย็น หรือ กาแฟเย็น

Americano – Long Black

     เมนูอเมริกาโน่เป็นเมนูที่นำ Espresso  ซึ่งมีความเข้มข้นสูง มาเจือจางด้วยน้ำร้อน ทำให้เมนูอเมริกาโน่ยังคงกลิ่นและรสชาติของ Espressoนั้นอยู่ แต่ไม่หนักและจัดจ้านเหมือน Espresso ดังนั้นจึงเหมาะสำหรับผู้ดื่มที่ชอบทานกาแฟดำที่ไม่หนักจนเกินไป ส่วนใหญ่มักดื่มโดยไม่ผสมนม หรือ สารให้ความหวานใดๆเพื่อให้ได้รสชาติที่ชัดเจน โดยชื่อ Americano มีความหมายว่า “แบบอเมริกัน.”  ซึ่งเชื่อกันว่า Espresso เข้มข้นเกินไปสำหรับคอกาแฟชาวอเมริกัน จึงนำมาผสมน้ำร้อนเพื่อให้เจือจางดื่มง่ายขึ้นจนเป็นที่นิยมไปทั่วโลก.

               

 Espresso Macchiato

   เราจะใช้เอสเปรสโซ่ 1 Shot เติมโฟมนมนุ่มๆ ลงไปเพียงเล็กน้อย โดยจะไม่ใส่น้ำนมลงไปด้วย  ซึ่งจะทำให้เราได้รับความหอม นุ่มของโฟมนม ที่จะมาปะทะกับริมฝีปากเราก่อน ประกอบกับรสชาติอันเข้มข้นของช็อตเอสเพรสโซในตอนท้าย ก็จะเหมาะกับ ผู้ที่ชอบทานเอสเพรสโซ แต่ในบางอารมณ์อาจอยากหาสัมผัสที่นุ่มนวลมาช่วยสร้างสุนทรีย์ในการดื่ม

Espresso Con Panna

    คือใช้กาแฟเอสเปรสโซ่1 Shot จากนั้นใส่วิปปิ้งครีมลงไปด้านบนเล็กน้อย

Café Latte

     Latte เป็นภาษาอิตาลี แปลว่า นม ซึ่งในประเทศอื่นหรือในประเทศไทยเอง การสั่ง Latte เราจะเข้าใจตรงกันว่าเป็น “กาแฟที่ผสมนม” นั่นเอง Cafè latte เป็น ภาษาอิตาลี แปลว่า “กาแฟนม”  โดยการนำ Espresso shot 1shot มาเจือจางด้วยนมร้อน (Steamed Milk) หรือนมที่เกิดจากการสตรีมด้วยไอน้ำจากเครื่องชงกาแฟ  และโฟมนมเนียนละเอียดประมาณ 1เซนติเมตร  ซึ่งได้มาจากการสตรีมนมด้วยนั่นเอง 

Flat White

     Flat White คือเมนูกาแฟนมร้อน ซึ่งเป็นชื่อเรียกเฉพาะ มีที่ออสเตรเลียที่เดียวเท่านั้น โดย Flat แปลว่า เรียบ,แบน   White แปลว่า สีขาว หรือในที่นี้คือ นม นั่นเอง

โดย Flat White กับ  Café Latte จะมีความแตกต่างกันเล็กน้อยตรงที่ โฟมนมเนียนๆนุ่มๆ

Café Latte =  Espresso Shot + Steamed Milk +Micro Foam 1 CM.

Flat White = Espresso Shot + Steamed Milk

     จะสังเกตว่า ในเมนู Flat White จะมีเพียงแค่นมร้อน หรือ บางที่ อาจสตรีมนมให้เกิดฟองบางๆเนียนๆกว่า Café Latte จึงทำให้เมนู Flat White ให้ความรู้สึกในปากที่นุ่มนวล ละมุน นุ่มลิ้น

Cappuccino

     Cappuccino คือ เมนูกาแฟที่มีส่วนประกอบของเอสเพรสโซ่ นมร้อนและโฟมนมเนียนละเอียด  โดยส่วนใหญ่ในเครื่องดื่มนี้จะประกอบไปด้วย  Espresso shot + Steamed Milk + Micro Foam  ในอัตราส่วน 1:1:1 ซึ่งจะมีความแตกต่างกันกับเมนู  Café Latte ซึ่งจะประกอบไปด้วยน้ำนมซะส่วนใหญ่และโฟมนมเนียนละเอียดแค่ประมาณ 1 เซนติเมตรเท่านั้น ดังนั้นเมื่อเราดื่ม Cappucino เข้าไป เราจะสัมผัสได้ว่า คาปูชิโน่จะเป็นเมนูนมร้อนที่มีความเข้นข้นมากกว่าคาเฟ่ลาเต้และให้ความรู้สึก creamy เมื่ออยู่ในปากมากกว่าคาเฟ่ลาเต้ด้วย

Mocha Latte

     Mocha Latte หรือ Café Mocha หรือบางคนอาจจะเคยได้ยินคำว่า Mochaccino คือ เมนูกาแฟนมร้อนที่อยู่ในหมวดเดียวกับ Café Latte แต่ความพิเศษของเมนูนี้คือการผสมช็อคโกแลตเข้าไปในเครื่องดื่มซึ่งอาจจะเป็นน้ำเชื่อมแต่งกลิ่นช็อคโกแลตหรือซอสช็อคโกแลตก็สามารถทำได้เช่นกัน

     ตอนนี้ท่านผู้อ่านคงจะได้ทราบกันแล้วว่า กาแฟแต่ละเมนูมีความแตกต่างกันอย่างไรบ้าง ผู้ที่ชื่นชอบกาแฟดำคงต้องเลือกสั่ง Americano  ส่วนผู้ที่ชื่นชอบกาแฟนมก็สามารถเลือกได้ว่าจะสั่งเป็น Café Latte หรือ Cappuccino แต่ถ้าหากใครที่ต้องการความเข้มข้นและคาแร็กเตอร์ของกาแฟที่ชัดเจน ก็อาจจะอยากลอง Espresso ดูสักครั้ง  ซึ่งเมนูเหล่านี้เป็นเพียงเมนูพื้นฐานที่สามารถพบเจอได้ในร้านกาแฟทั่วไป ถ้าหากเข้าใจในส่วนผสมต่างๆ ของแต่ละเมนูแล้ว ผู้อ่านทุกท่านก็สามารถสั่งกาแฟแบบ Specialist ได้ไม่ยาก

โดยใน Ep. ถัดไป เราจะพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับกาแฟแบบพิเศษ หรือ Specialty Coffee และ เมนูกาแฟแบบอื่นๆ ที่สามารถพบเจอได้ในร้านกาแฟ Specialty Coffee