บอกเล่าเรื่องราวของ “Bluekoff” ที่อยู่คู่กับวงการกาแฟไทยมากว่า 20 ปี

     Bluekoff เป็นบริษัทที่จำหน่ายทั้งเมล็ดกาแฟ เครื่องชง เครื่องบด อุปกรณ์และวัตถุดิบสำหรับเปิดร้านกาแฟแบบครบวงจร รวมไปถึงการให้คำปรึกษาและการสอนด้านกาแฟสำหรับผู้ที่สนใจตั้งแต่เริ่มต้นไปจนถึงมืออาชีพ

     คำว่า “Bluekoff” มาจากสีของ Green Bean Coffee หรือเมล็ดกาแฟดิบ ที่มีสีเขียวอมฟ้า ซึ่งเป็นเมล็ดกาแฟที่มีคุณภาพดีที่สุด

กว่าจะมาเป็นกาแฟแก้วโปรดของคุณ

     เมล็ดกาแฟของ Bluekoff มาจากหมู่บ้านดอยช้าง อ.แม่สรวย จ.เชียงราย ด้วยสภาพภูมิประเทศและภูมิอากาศที่เหมาะสมต่อการเติบโตของต้นกาแฟ ทำให้กาแฟมีรสชาติที่โดดเด่นอย่างมีเอกลักษณ์

     ตั้งแต่ปี พ.ศ.2543 เป็นต้นมา Bluekoff พยายามคัดสรรหาแหล่งกาแฟอราบิก้าคุณภาพดีในเมืองไทยจากหลายแหล่งปลูกมาทดลองใช้ จนได้ค้นพบแหล่งปลูกเมล็ดกาแฟจากบ้านดอยช้าง จ.เชียงราย ซึ่งมีเอกลักษณ์ กลิ่น รสชาติ โดดเด่นกว่าที่เราเคยเลือกใช้มา

     ในช่วงแรกก็ติดปัญหาหลายอย่าง เนื่องจากเกษตรกรที่ส่วนใหญ่ยังไม่มีความรู้ในการทำกาแฟที่ดีพอ ทำให้กาแฟมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ เช่น กลิ่นอับ กลิ่นชื้น กลิ่นราจากการตากไม่แห้ง ล้างไม่สะอาด และพบอีกหนึ่งปัญหาที่สำคัญ คือ หลังจากที่มีคนรู้จักกาแฟบ้านดอยช้างมากขึ้น ทำให้กาแฟขายได้ราคาแพงกว่าดอยอื่นๆ เกิดการสวมรอยกาแฟขึ้น มีการนำกาแฟจากที่อื่น ขนขึ้นมาที่บ้านดอยช้าง แล้วขายเป็นกาแฟจากบ้านดอยช้าง เพื่อขายให้ได้ราคาเท่ากัน ด้วยเหตุนี้ทำให้ไม่สามารถควบคุมคุณภาพได้อย่างเต็มที่

เพราะ Bluekoff เชื่อว่ากาแฟที่ดีย่อมมาจากต้นน้ำที่ดี

     เพื่อควบคุมคุณภาพให้ดียิ่งขึ้น Bluekoff จึงตั้งโรงงานผลิตเมล็ดกาแฟดิบที่บ้านดอยช้างนั่น คือ Bluekoff Plantation เพื่อควบคุมคุณภาพของเมล็ดกาแฟที่เราต้องการใช้ให้ได้ 100% รับซื้อเชอร์รีกาแฟคุณภาพจากเกษตรกรที่เป็นสมาชิกในโครงการ จากนั้นนำเข้าสู่ขั้นตอนการผลิตที่มีการควบคุมคุณภาพและมาตรฐานอย่างดี เพื่อให้กาแฟสะอาด และมีรสชาติชัดเจน

     จากการคัดสรรเชอร์รีกาแฟมาเป็นอย่างดี ผ่านกระบวนการโปรเซสแต่ละขั้นตอนอย่างพิถีพิถัน ทำให้เราสามารถควบคุมคุณภาพของกาแฟให้มีคุณภาพดีอย่างสม่ำเสมอ

     เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน Bluekoff มีการให้คำปรึกษาและคำแนะนำเกี่ยวกับการดูแลต้นกาแฟ และไร่กาแฟแก่เกษตรกร นอกจากนี้เรายังมีการทำปุ๋ยจากเปลือกกาแฟที่เหลือทิ้งจากการทำโปรเซส นำมาหมักและแจกจ่ายแก่เกษตรกรเพื่อนำไปใช้ในการดูแลไร่กาแฟต่อไป ซึ่งการใช้ปุ๋ยจากเปลือกกาแฟนอกจากจะช่วยให้ต้นไม้งอกงามแล้ว ยังเป็นการรักษา บำรุงดินในระยะยาวได้ดีอีกด้วย เพราะดินเป็นแหล่งอาหารที่สำคัญต่อพืช การฟื้นฟูคุณภาพของดินจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นและสำคัญต่อการทำการเกษตร นอกจากนั้นยังทำให้ปลอดภัยต่อเกษตรกรอีกด้วย

การรับรองมาตรฐานการผลิตระดับสากล เพื่อให้คุณมั่นใจในคุณภาพของเรา

     โรงคั่วและบรรจุเมล็ดกาแฟของ Bluekoff ตั้งอยู่ที่ จ.สระบุรี ซึ่งได้รับการรับรองคุณภาพและมาตรฐานระดับสากลทั้ง GHPs และ HACCP

GHPs (Good Hygiene Practices)

     หลักเกณฑ์หรือข้อกำหนดที่เป็นแนวทางพื้นฐานในการควบคุมการผลิตสินค้า เพื่อป้องกันอันตรายทางอาหาร (Food hazard) ทั้งอันตรายจากทางกายภาพ เคมี และชีวภาพ โดยครอบคลุมตั้งแต่สุขอนามัยของพนักงาน สถานที่ผลิต วัตถุดิบ และบรรจุภัณฑ์ เป็นการควบคุมสุขอนามัยในทุกขั้นตอนการผลิต การบำรุงรักษาสถานที่ผลิต และการขนส่งจนกว่าสินค้าจะถึงมือผู้บริโภค

HACCP (Hazard Analysis Critical Control Point)

     เป็นมาตรฐานการผลิตที่มีมาตรการป้องกันอันตรายที่ผู้บริโภคอาจได้รับจากการบริโภคอาหาร ด้วยการจัดการด้านการควบคุมกระบวนการผลิต โดยเน้นการจัดการจุดที่ได้มีการวิเคราะห์แล้วว่าเป็นจุดที่สำคัญหรือวิกฤตในการควบคุมอันตรายไม่ให้ไปสู่ผู้บริโภค

     เมล็ดกาแฟก่อนที่จะนำมาคั่วเรามีการคัดคุณภาพถึง 4 ขั้นตอน ได้แก่

1. การคัดขนาดและความหนาแน่น

     มีการคัดขนาดและความหนาแน่นของเมล็ดกาแฟดิบด้วยเครื่อง Gravity ซึ่งเป็นการคัดแยกเมล็ดกาแฟดิบที่มีน้ำหนักเบา หรือความหนาแน่นน้อยออกไป ซึ่งในขั้นตอนดังกล่าวจะทำถึง 2 ครั้ง เพื่อผลลัพธ์ที่มีความแม่นยำ

2. การคัดสี

     หลังจากที่เมล็ดกาแฟดิบที่ผ่านการคัดขนาดและความหนาแน่นมาแล้ว จะมีการคัดแยกอีกครั้งด้วยเครื่องยิงสี หรือ Color Sorter ซึ่งจะยิงเมล็ดกาแฟดิบที่มีสีไม่ผิดปกติออกไป นั่นก็คือเมล็ดกาแฟดิบที่เป็น Defect เช่น มีมอดเจาะ เป็นต้น

3. การคัดด้วยมือคน

     หลังจากที่ผ่านเข้าเครื่องยิงสีแล้วเมล็ดกาแฟดิบทั้งหมดจะมีการคัดด้วยมืออีกครั้ง เพื่อคัดแยก Defect ที่อาจจะหลงเหลืออยู่ จึงจะผ่านเข้าสู่ขั้นตอนในการคั่วต่อไปนั่นเอง

     เมล็ดกาแฟดิบจะถูกคั่วด้วยโปรไฟล์ที่ผ่านการคิดค้นและทดลองแล้วว่าจะสามารถดึงเอากลิ่นและรสชาติของกาแฟแต่ละชนิดออกมาได้อย่างเหมาะสมและมีผลลัพธ์ที่เสถียรที่สุด ก่อนที่จะนำไปบรรจุลงถุง จะมีการคัดแยกสิ่งแปลกปลอมอีกครั้งด้วยเครื่อง Destoner เป็นการใช้ลมเป่า ซึ่งเมล็ดกาแฟที่เบาจะถูกเป่าขึ้นไป แยกเศษหิน เศษดิน ที่อาจจะตกค้างออกมาอีกครั้ง จากนั้นจึงนำไปบรรจุด้วยเครื่องจักร เพื่อความสะอาดและปลอดภัยของสินค้า

     เราคำนึงถึงความสดใหม่ของเมล็ดกาแฟก่อนส่งตรงถึงมือผู้ดื่มกาแฟทุกคน เราจึงเลือกใช้ถุงกาแฟที่มาจากวัสดุที่ดีและมีคุณสมบัติที่เหมาะสม และมี One Way Valve หรือวาล์วทางเดียว ที่ช่วยระบายก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่เกิดจากกระบวนการคั่วกาแฟออกไป

     ถุงกาแฟทำจากเนื้อวัสดุประเภทลามิเนต (Laminate) เป็นบรรจุภัณฑ์ที่เนื้อวัสดุมีฟิล์มพลาสติก ตั้งแต่ 2 ชั้นขึ้นไปนำมาประกบกัน ซึ่งฟิล์มของแต่ละชั้นนั้นก็จะมีคุณสมบัติที่ดีแตกต่างกัน ทําให้บรรจุภัณฑ์มีความทนทานแข็งแรง สวยงาม สามารถรักษาคุณภาพของเมล็ดกาแฟได้ยาวนานขึ้นและมีความปลอดภัย

ชั้นนอกสุดทำจากโพลิโพรพิลิน (PP : Polypropylene)

     เป็นพลาสติกที่มีความทนทานต่อความร้อนได้สูงถึง 120º C มีอัตราการซึมผ่านของก๊าซต่ำ ป้องกันการซึมผ่านของไอน้ำได้ดี มีความทนทานต่อสารเคมีต่างๆ

ชั้นกลางทำจากอลูมิเนียม (Aluminium)

     ไม่มีกลิ่นและรส มีความแข็งแรงและทนทานต่อฝุ่นละออง ออกซิเจน สารเคมี น้ำ ความชื้นและสารอื่นๆ ที่จะทำลายคุณภาพของอาหาร และสะท้อนรังสีความร้อนได้ 95%

ชั้นในสุดทำจากโพลิเอทิลีน (LLDPE : Linear Low-Density Polyethylene)

     ทำจากเนื้อพลาสติกมีความนิ่มและเหนียว มีความใสและมันวาว ทนต่อความร้อนและความดันสูงได้ นิยมใช้ผลิตแผ่นฟิล์มสำหรับผลิตบรรจุภัณฑ์อาหาร โดยใช้รวมกับวัสดุอื่นเป็นวัสดุประสาน (Laminate) ใช้เป็นชั้นหรือตัวกลางสำหรับปิดผนึก (Sealing Layer)

     โดยวัสดุที่นำมาทำถุงกาแฟนั้นได้รับมาตรฐาน Food Grade มีความปลอดภัย ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย และช่วยรักษาคุณภาพของเมล็ดกาแฟให้สดใหม่อยู่เสมอ นอกจากเรื่องคุณภาพของกาแฟที่ผ่านทุกกระบวนการอย่างพิถีพิถันแล้ว ในเรื่องบรรจุภัณฑ์เมล็ดกาแฟของเราก็ยังมีประสิทธิภาพที่ดีเยี่ยม พร้อมส่งมอบประสบการณ์ในการดื่มกาแฟให้กับผู้ดื่มกาแฟทุกๆ คน

ส่งต่อประสบการณ์กาแฟสุดพิเศษ

KEEN COFFEE EXPERIENCE

ด้วยประสบการณ์ในวงการกาแฟไทยมากว่า 20 ปี

     Bluekoff จำหน่ายสินค้าเกี่ยวกับธุรกิจกาแฟแบบครบวงจร พร้อมบริการให้คำปรึกษาและแนะนำข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องกาแฟ ตลอดจนการเปิดร้านกาแฟอย่างจริงใจ

     “Bluekoff Education Center” ศูนย์การเรียนรู้แห่งใหม่ ที่เปิดสอนความรู้ด้านกาแฟตั้งแต่มือใหม่ไปจนถึงระดับมืออาชีพ มีการถ่ายทอดความรู้พื้นฐานอย่างถูกต้อง และสามารถนำไปปรับใช้ได้จริง

     Bluekoff Education Center ได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการจากสถาบัน CQI (@Coffee Quality Institute) แต่งตั้งให้ Bluekoff Education Center เป็น Q Venue Professional ที่ผ่านการตรวจสอบมาตรฐานและสามารถจัดการเรียนการสอนความรู้ด้านกาแฟจากสถาบัน CQI

     และมากไปกว่านี้ Bluekoff Education Center ยังจัดให้มีคอร์สเรียนสำหรับทุกระดับอย่างต่อเนื่อง เพื่อยกระดับการศึกษาด้านกาแฟพิเศษในประเทศไทย ให้เป็นที่ยอมรับและมีชื่อเสียงระดับสากล โดยมุ่งเน้นความเป็นมืออาชีพและประโยชน์สูงสุดที่ผู้เรียนจะได้รับ และนำไปเพิ่มพูนศักยภาพ ต่อยอดในสายอาชีพทางด้านกาแฟพิเศษได้อย่างเต็มที่

     และความพิเศษสุดท้ายที่เราอยากจะส่งต่อก็คือ “Boffkool” ร้านกาแฟต้นแบบ ภายใต้คอนเซปต์ Experience Space สำหรับการแลกเปลี่ยนเรื่องราวดีๆ และประสบการณ์เกี่ยวกับกาแฟสำหรับผู้ที่ชอบดื่มกาแฟรวมถึงบรรยากาศในร้านกาแฟ

     Bluekoff เน้นเรื่องการเรียนรู้ การพัฒนา และการส่งต่อประสบการณ์ โดยเราจะไม่หยุดเรียนรู้ เพื่อพัฒนาคุณภาพกาแฟไทยไปสู่สากลอย่างยั่งยืน