ประวัติความเป็นมา

บอกเล่าเรื่องราวของ "Bluekoff"

      Bluekoff เป็นบริษัทที่จำหน่ายทั้งเมล็ดกาแฟ เครื่องชง เครื่องบด อุปกรณ์ และวัตถุดิบสำหรับเปิดร้านกาแฟแบบครบวงจร รวมไปถึงการให้คำปรึกษาและการสอนด้านกาแฟ สำหรับผู้ที่สนใจตั้งแต่เริ่มต้นไปจนถึงมืออาชีพ

      คำว่า “Bluekoff” มาจากสีของ Green Bean Coffee หรือเมล็ดกาแฟดิบที่มีสีเขียวอมฟ้า ซึ่งเป็นเมล็ดกาแฟที่มีคุณภาพดีที่สุด

 

กว่าจะมาเป็นกาแฟแก้วโปรดของคุณ

เมล็ดกาแฟของ Bluekoff มาจากหมู่บ้านดอยช้าง อ.แม่สรวย จ.เชียงราย ด้วยสภาพ ภูมิประเทศและภูมิอากาศ ที่เหมาะสมต่อการเติบโตของต้นกาแฟ ทำให้กาแฟมีรสชาติ ที่โดดเด่นอย่างมีเอกลักษณ์

ตั้งแต่ปี พ.ศ.2543 เป็นต้นมา Bluekoff พยายามเฟ้นหาแหล่งกาแฟอราบิกาดีๆ ในเมืองไทย จากหลายจังหวัด หลายดอย หลายหมู่บ้าน นำมาทดลองใช้ จนเราได้ค้นพบแหล่งปลูกเมล็ด กาแฟจากบ้านดอยช้าง จ.เชียงราย โดยดินในบริเวณนี้มีแร่ธาตุที่เหมาะสมต่อการปลูก ต้นกาแฟ ทำให้เมล็ดกาแฟมีความสมบูรณ์และมีรสชาติที่ดี มีเนื้อสัมผัสกลาง-มาก มีความนุ่ม นวล และมีความสมดุลของรสชาติสูง

เราจึงเลือกที่จะตั้งโรงงานผลิตเมล็ดกาแฟดิบที่บ้านดอยช้าง เพื่อควบคุมคุณภาพของเมล็ด กาแฟที่เราต้องการใช้ให้ได้ 100% ....ผลเชอร์รีกาแฟที่สุกจัด ถูกเก็บเกี่ยวด้วยมือของเกษตรกร ชาวเขาเผ่าลีซู อาข่า และเผ่าอื่นๆ ที่เป็นสมาชิกในโครงการซึ่งเป็นผู้ปลูกและส่งผลผลิต ผลเชอร์รี่กาแฟคัดคุณภาพให้กับโรงงานของเรา ผลเชอร์รี่กาแฟที่มีคุณภาพดี ที่เราได้มานั้น จะนำมาผ่านกระบวนการโปรเซสด้วยเครื่องจักรที่ทันสมัย เพื่อให้เมล็ดกาแฟกะลาที่ดีที่สุด และนำไปเก็บรักษาในสถานที่ที่ออกแบบมาโดยเฉพาะ เพื่อรักษาคุณภาพและความสดใหม่ ของสารกาแฟ (เมล็ดกาแฟดิบ) เอาไว้มากที่สุด

กาแฟคั่วบดทุกเมล็ดที่ผลิตในนามของ Bluekoff มั่นใจได้ว่า ทุกๆ เมล็ดที่ท่านได้นำไปใช้นั้น มีคุณภาพสูง ผ่านกระบวนการต่างๆ ด้วยความพิถีพิถัน ที่พวกเราตั้งใจเสิร์ฟให้ทุกท่าน ด้วยประสบการณ์กว่า 22 ปี

เพราะ Bluekoff เชื่อว่ากาแฟที่ดีย่อมมาจากต้นน้ำที่ดี

เพื่อควบคุมคุณภาพให้ดียิ่งขึ้น Bluekoff จึงตั้งโรงงานผลิตเมล็ดกาแฟดิบที่บ้านดอยช้างนั่น คือ Bluekoff Plantation เพื่อควบคุมคุณภาพของเมล็ดกาแฟที่เราต้องการใช้ให้ได้ 100% รับซื้อเชอร์รีกาแฟคุณภาพจากเกษตรกรที่เป็นสมาชิก ในโครงการ จากนั้นนำเข้าสู่ขั้นตอนการผลิตที่มีการควบคุมคุณภาพและมาตรฐานอย่างดี เพื่อให้กาแฟสะอาด และมีรสชาติชัดเจน

เพราะจากการคัดสรรเชอร์รีกาแฟมาเป็นอย่างดี ผ่านกระบวนการโปรเซสแต่ละขั้นตอนอย่างพิถีพิถัน ทำให้เราสามารถควบคุมคุณภาพของกาแฟให้มีคุณภาพดีอย่างสม่ำเสมอเชื่อว่ากาแฟที่ดีย่อมมาจากต้นน้ำที่ดี

เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน Bluekoff มีการให้คำปรึกษาและคำแนะนำเกี่ยวกับการดูแลต้นกาแฟ และไร่กาแฟแก่เกษตรกร นอกจากนี้เรายังมีการทำปุ๋ยจากเปลือกกาแฟที่เหลือทิ้งจากการทำโปรเซส นำมาหมักและแจกจ่ายแก่เกษตรกรเพื่อนำไปใช้ในการดูแลไร่กาแฟต่อไป ซึ่งการใช้ปุ๋ยจากเปลือกกาแฟนอกจากจะช่วยให้ต้นไม้งอกงามแล้ว ยังเป็นการรักษา บำรุงดินในระยะยาวได้ดีอีกด้วย เพราะดินเป็นแหล่งอาหารที่สำคัญต่อพืช การฟื้นฟูคุณภาพของดินจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นและสำคัญต่อการทำการเกษตร นอกจากนั้นยังทำให้ปลอดภัยต่อเกษตรกรอีกด้วย

การรับรองมาตรฐานการผลิตระดับสากล เพื่อให้คุณมั่นใจในคุณภาพของเรา

โรงคั่วและบรรจุเมล็ดกาแฟของ Bluekoff ตั้งอยู่ที่ จ.สระบุรี ซึ่งได้รับการรับรองคุณภาพ และมาตรฐานระดับสากลทั้ง GHPs และ HACCP

 

หลักเกณฑ์หรือข้อกำหนดที่เป็นแนวทางพื้นฐานในการควบคุมการผลิตสินค้า เพื่อป้องกันอันตรายทางอาหาร (Food hazard) ทั้งอันตรายจากทางกายภาพ เคมี และชีวภาพ โดยครอบคลุมตั้งแต่สุขอนามัยของพนักงาน สถานที่ผลิต วัตถุดิบ และบรรจุภัณฑ์ เป็นการควบคุมสุขอนามัยในทุกขั้นตอนการผลิต การบำรุงรักษาสถานที่ผลิต และการขนส่งจนกว่าสินค้าจะถึงมือผู้บริโภค

 

หลักเกณฑ์หรือข้อกำหนดที่เป็นแนวทางพื้นฐานในการควบคุมการผลิตสินค้า เพื่อป้องกันอันตรายทางอาหาร (Food hazard) ทั้งอันตรายจากทางกายภาพ เคมี และชีวภาพ โดยครอบคลุมตั้งแต่สุขอนามัยของพนักงาน สถานที่ผลิต วัตถุดิบ และบรรจุภัณฑ์ เป็นการควบคุมสุขอนามัยในทุกขั้นตอนการผลิต การบำรุงรักษาสถานที่ผลิต และการขนส่งจนกว่าสินค้าจะถึงมือผู้บริโภค

เมล็ดกาแฟก่อนที่จะนำมาคั่ว เรามีการคัดคุณภาพถึง 4 ขั้นตอน ได้แก่

01

การคัดขนาดและความหนาแน่น

มีการคัดขนาดและความหนาแน่นของเมล็ดกาแฟดิบด้วยเครื่อง Gravity ซึ่งเป็นการคัดแยกเมล็ดกาแฟดิบที่มีน้ำหนักเบา หรือความหนาแน่นน้อยออกไป ซึ่งในขั้นตอนดังกล่าวจะทำถึง 2 ครั้ง เพื่อผลลัพธ์ที่มีความแม่นยำ

02

การคัดสี

หลังจากที่เมล็ดกาแฟดิบที่ผ่านการคัดขนาดและความหนาแน่นมาแล้ว จะมีการคัดแยกอีกครั้งด้วยเครื่องยิงสี หรือ Color Sorter ซึ่งจะยิงเมล็ดกาแฟดิบที่มีสีไม่ผิดปกติออกไป นั่นก็คือเมล็ดกาแฟดิบที่เป็น Defect เช่น มีมอดเจาะ เป็นต้น

03

การคัดด้วยมือคน

หลังจากที่ผ่านเข้าเครื่องยิงสีแล้วเมล็ดกาแฟดิบทั้งหมดจะมีการคัดด้วยมืออีกครั้ง เพื่อคัดแยก Defect ที่อาจจะหลงเหลืออยู่ จึงจะผ่านเข้าสู่ขั้นตอนในการคั่วต่อไปนั่นเอง

04

การคั่ว

เมล็ดกาแฟดิบจะถูกคั่วด้วยโปรไฟล์ที่ผ่านการคิดค้นและทดลองแล้วว่าจะสามารถดึงเอากลิ่นและรสชาติของกาแฟแต่ละชนิดออกมาได้อย่างเหมาะสมและมีผลลัพธ์ที่เสถียรที่สุด ก่อนที่จะนำไปบรรจุลงถุง จะมีการคัดแยกสิ่งแปลกปลอมอีกครั้งด้วยเครื่อง Destoner เป็นการใช้ลมเป่า ซึ่งเมล็ดกาแฟที่เบาจะถูกเป่าขึ้นไป แยกเศษหิน เศษดิน ที่อาจจะตกค้างออกมาอีกครั้ง จากนั้นจึงนำไปบรรจุด้วยเครื่องจักร เพื่อความสะอาดและปลอดภัยของสินค้า

เราคำนึงถึงความสดใหม่ของเมล็ดกาแฟก่อนส่งตรงถึงมือผู้ดื่มกาแฟทุกคน

 

เราจึงเลือกใช้ถุงกาแฟที่มาจากวัสดุที่ดีและมีคุณสมบัติที่เหมาะสม และมี One Way Valve หรือวาล์วทางเดียว ที่ช่วยระบายก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่เกิดจากกระบวนการคั่วกาแฟออกไป

ถุงกาแฟทำจากเนื้อวัสดุประเภทลามิเนต (Laminate) เป็นบรรจุภัณฑ์ที่เนื้อวัสดุมีฟิล์มพลาสติก ตั้งแต่ 2 ชั้นขึ้นไปนำมาประกบกัน ซึ่งฟิล์มของแต่ละชั้นนั้นก็จะมีคุณสมบัติที่ดีแตกต่างกัน ทําให้บรรจุภัณฑ์มีความทนทานแข็งแรง สวยงาม สามารถรักษาคุณภาพของเมล็ดกาแฟได้ยาวนานขึ้นและมีความปลอดภัย

  • ชั้นนอกสุดทำจากโพลิโพรพิลิน (PP : Polypropylene) เป็นพลาสติกที่มีความทนทานต่อความร้อนได้สูงถึง 120º C มีอัตราการซึมผ่านของก๊าซต่ำ ป้องกันการซึมผ่านของไอน้ำได้ดี มีความทนทานต่อสารเคมีต่างๆ
  • ชั้นกลางทำจากอลูมิเนียม (Aluminium) ไม่มีกลิ่นและรส มีความแข็งแรงและทนทานต่อฝุ่นละออง ออกซิเจน สารเคมี น้ำ ความชื้นและสารอื่นๆ ที่จะทำลายคุณภาพของอาหาร และสะท้อนรังสีความร้อนได้ 95%
  • ชั้นในสุดทำจากโพลิเอทิลีน (LLDPE : Linear Low-Density Polyethylene) ทำจากเนื้อพลาสติกมีความนิ่มและเหนียว มีความใสและมันวาว ทนต่อความร้อนและความดันสูงได้ นิยมใช้ผลิตแผ่นฟิล์มสำหรับผลิตบรรจุภัณฑ์อาหาร โดยใช้รวมกับวัสดุอื่นเป็นวัสดุประสาน (Laminate) ใช้เป็นชั้นหรือตัวกลางสำหรับปิดผนึก (Sealing Layer)

โดยวัสดุที่นำมาทำถุงกาแฟนั้นได้รับมาตรฐาน Food Grade มีความปลอดภัย ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย และช่วยรักษาคุณภาพของเมล็ดกาแฟให้สดใหม่อยู่เสมอ นอกจากเรื่องคุณภาพของกาแฟที่ผ่านทุกกระบวนการอย่างพิถีพิถันแล้ว ในเรื่องบรรจุภัณฑ์เมล็ดกาแฟของเราก็ยังมีประสิทธิภาพที่ดีเยี่ยม พร้อมส่งมอบประสบการณ์ในการดื่มกาแฟให้กับผู้ดื่มกาแฟทุกๆ คน

ส่งต่อประสบการณ์กาแฟสุดพิเศษ

KEEN COFFEE EXPERIENCE
ด้วยประสบการณ์ในวงการกาแฟไทยมากว่า 20 ปี

Bluekoff จำหน่ายสินค้าเกี่ยวกับธุรกิจกาแฟแบบครบวงจร พร้อมบริการให้คำปรึกษาและแนะนำ ข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องกาแฟ ตลอดจนการเปิดร้านกาแฟอย่างจริงใจ

 

“Bluekoff Education Center”

ศูนย์การเรียนรู้แห่งใหม่ ที่เปิดสอนความรู้ด้านกาแฟตั้งแต่มือใหม่ไปจนถึงระดับมืออาชีพ มีการถ่ายทอดความรู้พื้นฐานอย่างถูกต้อง และสามารถนำไปปรับใช้ได้จริง

Bluekoff Education Center ได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการจากสถาบัน CQI (@Coffee Quality Institute) แต่งตั้งให้ Bluekoff Education Center เป็น Q Venue Professional ที่ผ่านการตรวจสอบมาตรฐานและสามารถจัดการเรียนการสอนความรู้ด้านกาแฟจากสถาบัน CQI

>และมากไปกว่านี้ Bluekoff Education Center ยังจัดให้มีคอร์สเรียนสำหรับทุกระดับอย่างต่อเนื่อง เพื่อยกระดับการศึกษาด้านกาแฟพิเศษในประเทศไทย ให้เป็นที่ยอมรับและมีชื่อเสียงระดับสากล โดย มุ่งเน้นความเป็นมืออาชีพและประโยชน์สูงสุดที่ผู้เรียนจะได้รับ และนำไปเพิ่มพูนศักยภาพ ต่อยอด ในสายอาชีพทางด้านกาแฟพิเศษได้อย่างเต็มที่

และความพิเศษสุดท้ายที่เราอยากจะส่งต่อก็คือ “Boffkool”

ร้านกาแฟต้นแบบ ภายใต้คอนเซปต์ Experience Space สำหรับการแลกเปลี่ยนเรื่องราวดีๆ และประสบการณ์เกี่ยวกับกาแฟสำหรับผู้ที่ชอบดื่มกาแฟรวมถึงบรรยากาศในร้านกาแฟ

Bluekoff เน้นเรื่องการเรียนรู้ การพัฒนา และการส่งต่อประสบการณ์ โดยเราจะไม่หยุดเรียนรู้ เพื่อพัฒนาคุณภาพกาแฟไทยไปสู่สากลอย่างยั่งยืน